ลุยเดี่ยว…เปรี้ยวเกาะเรือรบ (ตอนที่ 02 NAGASAKI) 29days in Japan
ลุยเดี่ยว…เปรี้ยวเกาะเรือรบ (ตอนที่ 02 NAGASAKI) 29days in Japan
กลับมาสู่ตอนที่ 2 กันครับ หายไปนานนนนนนนนนน (เพิ่ม น เพื่อให้รู้ว่านานมาก)
แอบไปเที่ยวอิตาลีมาเกือบ 20 วันครับ แฮร่ กลับมาประจำการเขียนเรื่องราวเล่าเรื่องอีกครั้ง
ครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวเกาะเรือรบ เกาะผีสิง หรือหลายๆชื่อที่เค้าเรียกกันครับ ผมเห็นเกาะนี้ครั้งแรกก็หมายมั่นปั้นมือไว้ว่าต้องไปให้ได้
ก็จัดแจงหาข้อมูล แล้วก็จองวันเดินทาง จ่ายเงิน เลือกรอบ เตรียมตัวไปกันได้เลยครับ สบายๆ ง่ายๆ ประเทศนี้อะไรก็สะดวกไปหมดครับ
วันนี้เป็นวันที่ผม fail มากๆก็ว่าได้ฮะ เพราะเจอพายุ Sanfrancisco พอดี ฮือๆ ฝนตกกระหน่ำ โปรแกรมรวนมากๆ ต้องไปลุ้นว่าจะได้ไปเกาะมั้ย
สุดท้ายก็ได้ไปครับ ไปดูกันดีกว่านะครับ ^^
แผนที่และเส้นทางการเดินทางครับ ผมเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2013 – 19 พฤศจิกายน 2013 ลงเครื่องที่สนามบินฟูกูโอกะ
และ กลับทางสนามบินนิวชิโตเสะ ซัปโปโรครับ
เมืองที่ผมไปมีทั้งหมด 21 เมืองครับ
01 FUKUOKA
02 NAGASAKI <– ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ครับ
03 YUFUIN
04 KUMAMOTO (ASO)
05 HIROSHIMA
06 MIYAJIMA
07 OSAKA
08 KOBE
09 NARA
10 KYOTO
11 KANAZAWA
12 SHIRAKAWAGO
13 TAKAYAMA
14 TOYAMA (MT. TATEYAMA)
15 KAWAGUCHI-KO
16 YOKOHAMA
17 TOKYO
18 NIKKO
19 HAKODATE
20 OTARU
21 SAPPORO
View Japan 29 Days Trip in a larger map
จากฟูกุโอกะ มุ่งหน้าสู่ นางาซากิ
ที่นั่งของรถไฟแถบคิวชูนั่งสบายมากครับ รถไฟก็ใหม่ จากสถานี HAKATA ผมเลือกลงที่ สถานี URAKAMI ครับ เพื่อต่อ TRAM (รถราง) ไป Peace Park ก่อน
เวลานั่งรถไฟของคิวชูจะมีที่เสียบตั๋วด้วยครับ สะดวกดี เวลาเจ้าหน้าที่มาตรวจก็หยิบไปตรวจเลย เค้าคิดมาแล้วจริงๆ
ผมวางแผนการเที่ยวด้วยเว็บไซต์ hyperdia ก่อนไปครับ แต่เอาเข้าจริงเวลาเดินทางก็ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เพราะตอนจองตั๋วที่ Counter JR PASS อาจจะเต็ม เลยต้องขยับไป ยืดหยุ่นเอาครับ เลยได้ออกจาก HAKATA เกือบ 9 โมง (เศร้า)
แผนที่รถรางของเมืองนางาซากิครับ
หลังจากลงจากสถานี URAKAMI แล้ว เดินไปขึ้น Tram มีสองสายครับ ที่จะไป Peace Park คือสายสีน้ำเงิน กับ สีแดง ดูง่ายๆครับ ป้ายรถรางก็มีสีตามนั้น
รถรางน่ารักดีครับ มาพร้อมกับสายฝน วันนี้ผมทำใจไว้แล้วละ TxT
ถึงแล้วครับ Peace Park อนุสรณ์สถานที่สร้างไว้เป็นที่รำลึกถึงการเป็นเป้าโจมตีระเบิดนิวเคลียร์ ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ
วันนี้ฝนตกทั้งวันครับ แต่ที่นี่ก็ยังมีเด็กนักเรียนนักศึกษามารำลึกประวัติศาสตร์กัน มากมาย ส่วนนึงคงเป็นการทัศนศึกษานอกห้องเรียนของทางโรงเรียนที่ญี่ปุ่น
อาจารย์ที่พานักเรียนมาก็เตรียมกระดาษสีสันสดใส ที่พับเป็นรูปนกกระเรียน เพื่อสื่อถึงการมุ่งสู่สันติภาพ และ คัดค้านการต่อต้านระเบิดนิวเคลียร์
ระลึกถึง รำลึกถึง สงบนิ่ง
ถ่ายรูปหมู่กันหน่อย ^___^
รูปปั้นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างเอเซียกับตะวันตก เทียบสเกลกับผู้คนด้านล่างจะเห็นว่าใหญ่มากครับ
รอบๆสวนก็จะมีศิลปะ งานประติมากรรมมากมายอยู่ตามจุดต่างๆ ที่สื่อถึงสันติภาพ
ฝนก็ยังคงตกต่อเนื่อง จากพายุซานฟรานซิสโก
จุดสำหรับการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต หรือจุดที่โดนทิ้งบอมม์
เด็กๆร่วมกันรำลึกถึง
เดินไปอีกหน่อยก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณู ด้านหน้ามีรูปปั้นซาดาโกะอยู่
ตามเด็กๆไปดีกว่าครับ
ด้านหน้าครับ ค่าเข้ามิวเซียมคนละ 200 เยน
บรรยากาศด้านในครับ เด็กๆเต็มเลย เด็กๆที่นี่ดูสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์กันดีจังครับ
จำลองหน้าตาของเจ้าระเบิดที่เป็นต้นเหตุครับ ใหญ่เอาเรื่อง
ความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนคืนมาได้ ดูไปก็เศร้าไป ไม่อยากจะให้มีเลยสงครามโลกครั้งที่ 3
จำลองเปรียบเทียบความรุนแรงครับ เค้าบอกว่าจะเห็นเป็นรูปเห็ด (Mushroom)
ด้านในมีห้องๆนึงมีเสาสูงๆอยู่ครับ สวยดี แต่ผมไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไรครับ
หลังจากออกจากมิวเซียมผมก็รีบมุ่งตรงไป ไฮไลท์ที่ผมอยากไปมากที่สุดครับ
ใช่ครับเกาะฮาชิมะ หรือ กุนกันจิม่า หรือเกาะเรือรบนั่นแหละครับ (หลายชื่อจัง)
ระหว่างทางนั่งเรือออกจากฝั่ง
จำได้ว่ารีบนั่งรถรางไปที่ท่าเรือ และกลัวจะไปไม่ทันมากๆ เลยหาซื้อข้าวปั้นใน Family Mart ไปกิน 2 อัน พอช่วยได้ครับ อร่อยดี
ถึงเกาะแล้ว ฝนตกกระหน่ำยิ่งกว่าเดิมอีกครับ ร่มก็ห้ามใช้นะครับ ให้ใช้เสื้อกันฝนอย่างเดียว
ผมจองทัวร์จากเมืองไทยไปครับ จากเว็บนี้ครับ http://www.gunkanjima-concierge.com/en/
คนละ 3600 เยน มีวันละ 2 รอบ ผมเลือกรอบบ่ายเพราะหวังว่าแสงจะสวยกว่า แต่พอเห็นพยากรณ์อากาศแล้ว เลิกหวังได้เลยฮะ TxT
อ้อ นั่ง Tram ไปลงที่ Ourakaigandori สายสีเขียวครับ แล้วไปที่ท่าเรือ Tokiwa Terminal นะครับ เดินไปนิดเดียว
บนเกาะเค้าจะมีทางเดินไปเป็นจุดๆครับ มีคุณลุงไกด์คอยอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่น ถามว่าเข้าใจมั้ย ตอบเลย ไม่ฮะ TxT
แต่ก็มีรูปให้ดูนะครับ บางทีก็สลับมาพูดอังกฤษบ้างครับ
จริงๆบนเกาะก็แอบหลอนนะครับ
เราก็คอยฟังตามจุดต่างๆที่ไกด์เค้าคอยอธิบายครับ
ส่วนใหญ่ก็คงอยากมาถ่ายรูปกันมากกว่ามั้งครับ
ที่นี่ที่ทำให้คนรู้จักไปทั่วโลกคงหนีไม่พ้น 007 ภาค Skyfall นะครับ ผมเองก็ยอมรับว่าอยากไปทันทีหลังจากได้ดูเลยครับ
ผมไม่ค่อยได้ฟังรายละเอียดเท่าไรนะครับ เนื่องจากภาษาผมก็ไม่แข็งแรง แต่บนเรือระหว่างทางไปเกาะเค้าก็มีเปิดวีดีโอให้ดูนะครับ ส่วนผมหลับครับ ฮ่าๆ
พอเดินครบตามจุดก็ได้เวลากลับครับ เพราะเวลาเดินทางแต่ละรอบก็เกือบๆ หนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
ได้เวลาเดินออกจากเกาะ ดาดฟ้าเรือจะมีที่ให้ขึ้นไปถ่ายรูปได้ครับ
เหมือนเรือรบมั้ยครับ เสียดายที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ฮือๆ
ถ่ายรูปได้สักพัก ฝนก็กระหน่ำมาอีกรอบครับ
หลังจากกลับมาที่ท่าเรือเรียบร้อยก็รีบมุ่งหน้าไปจุดชมวิวที่เค้าเรียกว่าสวยเป็น 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นครับ แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง
เพราะเนื่องจากพายุนี่แหละครับ กระเช้าปิดครับ ขึ้นเขาไปดูไม่ได้ ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไปไว้ไปรอบหน้าแล้วกันครับ
อ้อ ที่ฮาชิมะ หลังจากกลับมาที่ท่าเรือเค้าจะให้คูปองเป็นแบบถ้าไปครบ 3 ครั้งจะได้เที่ยวฟรีหนึ่งครั้งด้วยนะครับ แต่ใครจะไปได้ครบทั้ง 4 ครั้งจริงมั้ยครับ =..=
กลับฟูกูโอกะดีกว่าครับ ฟ้าฝนเป็นใจมากครับวันนี้นอนที่ฟูกุโอกะอีกคืนครับ
ข้าวกล่องเย็นนี้ ประหยัดไปอีกมื้อครับ
พรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปเมืองท่องเที่ยวในคิวชูที่เค้าว่าน่ารัก โรแมนติก อีกที่ครับ เมืองยุฟุอินครับ รอติดตามนะครับ