Review Synology DS420+ รีวิวอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลไฟล์ภาพที่อยากบอกต่อ
อยากรู้มั้ยครับว่าปกติแล้วช่างภาพแบบเราเก็บไฟล์ รูปภาพ วีดีโอ กันยังไงบ้างครับ
สวัสดีครับ วันนี้ผมก็จะมาแนะนำ หรือ รีวิวเจ้าอุปกรณ์ตัวใหม่ที่ผมเพิ่งได้และได้แอบลองใช้มาสักพักแล้วครับ และก็พบว่ามันดีมากๆ เปลี่ยนวิธีการจัดเก็บไฟล์ข้อมูล หรือไฟล์รูปภาพของผมไปเลยล่ะครับ
ทุกคนคงสงสัยว่า เจ้า Synology DS420+ ที่ผมมารีวิวเนี่ยคืออะไร มันดียังไง?
งั้นมาอธิบายคร่าวๆกันก่อนแล้วกันนะครับ ตอนนี้ทุกคนคงจะเคยชินกับการใช้ Cloud Storage กันแน่นอน ทั้ง iCloud , GoogleDrive , OneDrive , Dropbox พวกนี้เป็นต้นนะครับ ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้บริการเหล่านี้เช่นกัน เพราะผมเองต้องอัพโหลดไฟล์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้า หรือเพื่อน ดาวน์โหลดไปใช้งาน หรือแม้ตัวผมเองก็ต้องดาวน์โหลดไฟล์พวกนี้มาใช้งานบ้างครับ
แต่ตอนนี้หลังจากที่ผมได้ลองใช้ ได้ลองติดตั้ง (ในรีวิวนี้ไม่ได้สอนเรื่องติดตั้งนะครับ) Synology DS420+ เนี่ยก็พบว่ามันใช้งานง่ายมากๆ และมันดีจริงๆครับ เจ้าเครื่องนี้เราจะเรียกมันว่าเป็น NAS (Network Attached Storage) อธิบายง่ายๆก็คืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในระบบเครือข่ายครับ ที่มีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูง
ปกติแล้วทุกคนจะมีอุปกรณ์ดิจิตอลกันมากมายอยู่แล้วนะครับ เช่นในบ้านผมมีกัน 4 คน ทุกคนก็จะมีสมาร์ทโฟนกันหมด มีกล้องดิจิตอล มีคอมพิวเตอร์ ไฟล์จำนวนมากๆก็ไม่รู้จะไปเก็บไว้ตรงไหนกัน อาจจะแยกกันในคอมพิวเตอร์ของแต่ละคน หรือ ซื้อ External Harddrive มาจัดเก็บตรงส่วนนี้ก็ได้
ผมเองเนี่ยไม่อยากจะคุย มี External Harddrive หลายตัวมากๆครับ แต่ละปีก็ต้องซื้อมาเก็บไฟล์รูปต่างๆที่ผมได้ไปถ่ายรูปมาครับ พอหลายปีมันก็มีเยอะขึ้น สายเสยนี่เพียบ ดูวุ่นวายยุ่งเหยิงมากๆครับ 5555+ พอได้เจ้าตัวนี้มาดูสะอาดสะอ้านขึ้นมาทันทีเลย
ฟีเจอร์เด่นๆสำหรับผมที่ผมสนใจ เพราะต้องเอามาจัดเก็บไฟล์ RAW ของรูปในแต่ละวันที่ไปถ่ายมา หรือไฟล์ MOV วีดีโอและช่วงนี้แฟนผมเค้าอยู่คนละจังหวัดครับ เลยต้องมีกันแชร์ไฟล์ให้กันบ้างผ่านเจ้า NAS ตัวนี้ครับ
ฟีเจอร์แรกคงจะหนีไม่พ้นเจ้า File Station ที่เอาไว้จัดการระบบไฟล์ ต่างๆแชร์รูปให้กัน สามารถจัดการสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ต่างๆได้ครับ ผมก็จะสร้างโฟลเดอร์สำหรับแฟนผมเอาไว้ครับ เผื่อเค้าต้องการใช้รูปไหนสามารถอัพโหลดเข้าไปไว้ได้เลย ที่สำคัญสามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยนะโดยผ่านแอพที่ชื่อว่า DS File ครับผมทดลองใช้ก็พบว่าไม่แตกต่างอะไรกับ Google Drive เลย แถมอัพโหลดที่บ้านยังโคตรไวครับ ซึ่งผมได้ลองทดลองใช้กันดูแล้วครับ ทีนี้แม้เราจะอยู่คนละที่ คนละจังหวัด การจะใช้ไฟล์ร่วมกัน มันก็ไม่ได้ยากเลย แถมถ้ามีไฟล์ใหญ่ๆ เช่นพวกไฟล์วีดีโอต่างๆ เราก็ไม่ต้องไปพึ่งบริการ Cloud เลยล่ะครับ
และการ Access เข้าเจ้า NAS จากภายนอกหรือผ่านอินเตอร์เน็ตนี่โคตรจะง่ายมากๆครับ ฟีเจอร์ที่ผมชอบคือเจ้า QuickConnect ที่แค่เซ็ตอัพชื่อ Nas ของเรา เราก็สามารถ Login ผ่าน Username / Password ที่เรากำหนดขึ้นมาให้ใช้งานร่วมกันได้อย่างง่ายดาย ผมลองเซ็ต Photo Station ให้กับแฟนผมเค้าอัพโหลดรูปที่เค้าอยากเก็บเอาไว้ครับ แค่นี้เราก็ได้ Photo Album ที่เอาเก็บไว้ร่วมกันได้แล้วครับ
อีกคีย์ฟีเจอร์ที่ผมชอบคือ Cloud Sync ครับ ไอ้เจ้าเนี่ยมันฉลาดมากๆ เราสามารถ Login บริการ Cloud ของเราได้ ค่ายดังๆมีหมดครับ ผมเองก็ Backup Google Drive เอาไว้เหมือนกันครับ เพราะวางแผนไว้ว่าจะไม่ใช้แล้วครับ จะใช้ Synology NAS ของตัวเองนี่แหละประหยัดไปได้เยอะเลย 5555
สุดท้ายที่ผมไม่พูดถึงคงไม่ได้สิ่งที่ผมสนใจเรื่องของ NAS คือเรื่องของระบบไฟล์ครับ NAS ของ Synology เนี่ยมีระบบไฟล์ที่เรียกว่า Synology Hybrid Raid (SHR) มันคือ RAID ที่ทาง Synology เค้าออกแบบเองครับ ทีนี่เดี๋ยวหลายคนจะงง Raid มันคืออะไร อธิบายง่ายๆนะครับ เช่น ผมมี External HardDrive หลายตัว แต่ถ้าผมไม่ Backup ข้อมูลตัวใดตัวนึงเอาไว้ วันนึงมันเสีย ผมก็ต้องไปกู้ข้อมูลเสียเงินอีกเป็นหมื่นครับ มันไม่คุ้มเสี่ยงเลย แต่ถ้าเราทำ Raid ไว้ แล้วผมมี Harddisk อยู่ 4 ตัวใน NAS Harddisk เนี่ยมันสามารถเสียได้ครับ เช่นเสียไป 1 ตัว ผมสามารถซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนแทนก็สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมเลยครับ หรือจะดาวน์โหลดแพคเกจสำรองข้อมูลฟรีของ Synology ไปสำรองเก็บไว้ที่ Cloud อื่น ๆ ก็ได้ เห้อออ ชีวิตดีขึ้นเยอะเลยใช่มะ
เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจก็สามารถมาสอบถามได้นะครับ ตอนนี้เรื่องการจัดเก็บข้อมูลต่างๆที่สำคัญมันไม่ได้ยากอย่างที่คิดแล้วนะ อยากให้ลองไปใช้กันดูครับกับ Synology DS420+
สรุปสำหรับ Synology NAS นะครับ
– เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งง่าย ใช้งานง่ายมากๆ User Interface ก็เข้าใจง่าย
– มีระบบสำรองข้อมูลหรือ Private Cloud Storage เป็นของตัวเอง ตั้งค่าการเข้าถึงหรือแชร์ให้ผู้ใช้งานแต่ละคนได้อย่างอิสระ หากคำนวณในระยะยาวแล้วคุ้มค่ากว่าพื้นที่ของ Public Cloud ที่เสียเงินรายเดือน แถมข้อมูลมันก็อยู่กับเราเอง ไม่ได้อยู่บนที่สาธารณะ เพราะงั้นปลอดภัยกว่าแน่นอน
– มีการจัดเก็บข้อมูลแบบ RAID ป้องกันการเสียหายของ Harddisk และยังสามารถสั่ง Backup ได้ตลอดเวลา แถมยังมี Package ของ Synology ให้เลือก Install เพิ่มได้อีกเยอะเลย
– เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กๆ ไปจนถึงครอบครัวใหญ่ เพราะ Synology มีหลายรุ่นมากๆ ยังไม่ต้องใส่ Harddisk ครบก็ได้ สามารถเพิ่มเติมได้ในอนาคต ถ้างบเยอะเผื่ออนาคตก็ซื้อรุ่นที่มีเบย์ใส่ Harddisk เผื่อไว้ก่อนได้เลย
ผมคิดว่า Synology NAS ในอนาคตจะเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านที่มีความสำคัญกับผู้ที่ทำงานด้าน Photographer / Cinematographer ที่ต้องมีการจัดการกับไฟล์ภาพเป็นแสนๆภาพ เพราะทุกภาพล้วนมีความสำคัญกับสาขาอาชีพนี้มากๆครับ มารักษาและจัดเก็บไฟล์ที่มีความสำคัญของคุณด้วยอุปกรณ์ที่มีความน่าเชื่อถือกันเถอะครับ
สนใจ Synology NAS ดูได้จากลิงค์นี้เลยนะครับ https://sy.to/hasinghaa
#yourdatabutler #พ่อบ้านดาต้า #synology #ds420plus #nas #photostorage #cloud #cloudsystem #อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล