ปีนภูเขาไฟกินเนื้อม้าที่ Mt. ASO อาโสะ บอย (ตอนที่ 04 ASO) 29days in Japan
ปีนภูเขาไฟกินเนื้อม้าที่ Mt. ASO (ตอนที่ 04 ASO) 29days in Japan
วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2013
วันนี้มีแผนที่จะไปเที่ยวภูเขาไฟที่ยัง Active อยู่คือ ภูเขาไฟอาโสะ อยู่ที่จังหวัด Kumamoto ครับ
ผมได้คุยกับเจ้าของโฮสเทลตั้งแต่ตอนเช็คอินแล้วว่าต้องออกจากโฮสเทลเช้ามาก แล้วจากโฮสเทลเข้าไปสถานีรถไฟค่อนข้างไกลครับ
รถบัสตอนเช้าก็ยังไม่ถึงเวลาวิ่งด้วย เลยจำเป็นต้องให้ทางโฮสเทลเรียก Taxi ให้ครับ
มาต่อตอนที่ 4 กันเลยดีกว่าครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
แผนที่และเส้นทางการเดินทางครับ ผมเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2013 – 19 พฤศจิกายน 2013 ลงเครื่องที่สนามบินฟูกูโอกะ
และ กลับทางสนามบินนิวชิโตเสะ ซัปโปโรครับ
เมืองที่ผมไปมีทั้งหมด 21 เมืองครับ แบ่งเป็น 20 ตอนนะครับ
01 FUKUOKA
02 NAGASAKI
03 YUFUIN
04 KUMAMOTO (ASO) <– ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ครับ
05 HIROSHIMA + MIYAJIMA เปลี่ยนเนื้อเรื่องมารวมกันนะครับ
06 OSAKA
07 KOBE
08 NARA
09 KYOTO
10 KANAZAWA
11 SHIRAKAWAGO
12 TAKAYAMA
13 KUROBE ALPINE ROUTE
14 KAWAGUCHI-KO
15 YOKOHAMA
16 TOKYO
17 NIKKO
18 HAKODATE
19 OTARU
20 SAPPORO
View Japan 29 Days Trip in a larger map
ออกจากยุฟุอิน มุ่งหน้าสู่ ไปภูเขาไฟกันเลยครับ เย้ๆ
แผนการเดินทางที่เตรียมการก่อนมาครับ ต้องมาที่สถานียุฟุอินเพื่อนขึ้นรถไฟรอบ 7 โมง TxT เช้ามากๆครับ
ช่วงเวลารอรถ Taxi มาแอบมาถ่ายรูปโฮสเทลไว้เป็นที่ระลึกครับ เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นแท้ๆเลยครับ ที่สำคัญราคาไม่แพงเลยอยากมาลองพักดูครับ
หน้าสถานีตอนเช้าครับ เสียดายเมฆเยอะไปมองไม่เห็นยอดเขายุฟุดาเกะเลยครับ
ด้านในสถานีระหว่างรอรถไฟมาครับ
เราจะนั่งเจ้าคันนี้นี่แหละครับ แดงสะใจมาก
พอเข้าคุมาโมโต้ก็เริ่มเป็นเมืองมากขึ้นแล้วครับ
ส่วนเจ้าคันนี้เราจะนั่งไปภูเขาอาโสะนี่แหละครับ ผมว่ารถไฟคิวชูนี่สวยมากๆเลยนะครับ มีการเล่นสีสันมันดูเรียบๆแต่ดูดีอย่างบอกไม่ถูก
ถึงแล้วครับสถานีอาโสะ
รอบๆก็เป็นกิมมิคเล็กๆ เช่นบ้านเจ้า Kuro มาสค็อตของที่นี่แหละครับ น่ารักมั้ยฮะ
เนื่องจากตื่นเช้ามากๆ ก็เลยเริ่มหิวครับ ออกจากสถานีเดินไปด้านขวามือ ข้ามถนนไปหน่อยเดียวจะเจอร้านขายของครับ ขายทุกอย่างเลยฮะ
ลองแวะเข้าไปดูได้นะครับ ราคาไม่แพงด้วยครับ
ไอติมก็มี เห็นว่าที่คุมาโมโต้จะดังเรื่องผลิตภัณฑ์จากนมด้วยครับ ผมเลยไม่พลาดที่จะลิ้มลองครับ
ข้าวกล่องหลากหลายหน้าตา คนทานเนื้ออย่างผมคิดในใจ นี่มันสวรรค์ชัดๆ แถมราคาไม่แพงด้วยนะครับ
แล้วก็จัดมาทั้งของหวาน ของคาว เป็นมื้อเช้าที่มีความสุขจริงๆ
อ้อ! เกือบลืมบอกไปว่าตรงสถานีก่อนที่ผมจะมาหาอะไรทานรองท้อง ผมได้ทำการจองตั๋วรถบัสขึ้นภูเขาก่อนแล้วนะครับ มีที่ขายตั๋วตรงสถานีเลยครับ
เดินออกจากสถานีมาแล้วมองขวามือจะเห็นช่องเล็กๆครับ เข้าไปซื้อตั๋วตรงนั้นได้เลยครับ
ส่วนการขึ้นก็ขึ้นตรงด้านหน้าสถานีนั่นแหละครับ
ชะแว๊บบบบบ ตัดภาพมาที่ด้านบนเลยแล้วกันครับ อากาศอึมครึม+กลิ่นกัมมะถันจากภูเขาไฟ และลมหนาว สมกับเป็นบนภูเขามากๆครับ
รูปทรงประหลาดๆ นี่คือห้องน้ำด้านนอกสถานีนะครับ ผมลองใช้งานมาเรียบร้อย สะดวกสะบายไม่แพ้ในห้างเลยครับ
ยังยกให้เป็นอันดับหนึ่งเรื่องสุขาจริงๆ
ด้านในสถานีก็จะมีของขายตามสไตล์ญี่ปุ่นครับ คอยดูดเงินจากพวกเราๆทั้งหลาย
เรื่องที่น่าเสียดายคือ วันนี้ขึ้นกระเช้าไปดูปากปล่องไม่ได้ครับ วันนี้ควันของภูเขาไฟก็มากจริงๆแหละครับ
เสียใจ คงต้องมาใหม่ในโอกาสหน้าครับ
บรรยากาศกระเช้า เงียบสนิทครับ
ผมเลยเดินออกมาถ่ายรูปข้างนอกแทน เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าเดี๋ยวจะแจ้งอีกทีว่าสามารถขึ้นไปได้มั้ยครับ
พอทราบแน่ชัดแล้วว่าไม่มีทางจะได้ขึ้นไปดูแน่ๆ ผมก็เดินลงจากสถานีบนสุดลงมาตรงจุดพักที่ 2 ครับ ตรง Aso Valcano Museum นั่นแหละครับ
จาก Ropeway นะครับ
Credit ภาพจาก : japan-guide.com
เดินลงมาก็ถ่ายภาพไปเรื่อยๆครับ บ้านผมไม่มีวิวแบบนี้นี่นา TxT
จะมีทางเดินเท้าเฉพาะเลยนะครับ อยากเดินขึ้นหรือเดินลงก็ตามใจชอบเลยครับ ผมขี้เกียจรอรถเลยเดินเอาครับ ไม่ไกลมากพอเหนื่อยนิดๆครับ
แอบถ่ายรถญี่ปุ่น น่ารักดีครับ รถเล็กๆ พาครอบครัวมาเที่ยวกัน
บนเขาก็จะมีเฮลิคอปเตอร์คอยตรวจเช็คสภาพปล่องภูเขาไฟอยู่ตลอดครับ
ดูควันสิครับ ควันแบบนี้จะขึ้นไปดูได้ยังไง เดี๋ยวก็กลายเป็นไก่ย่าง 5 ดาวพอดี ฮ่าๆๆ
ถึงจุดที่สองแล้วครับ จุดนี้ก็เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมาขี่ม้า ถ่ายรูปเล่น นั่งรับประทานอาหารกันครับ
วิวรอบๆก็จะเป็นเช่นนี้แล
ตรงนี้เป็นจุดชมวิวด้านบนครับ
อันนี้เป็นภูเขา Komezuka ครับ ผมเห็นรูปเจ้านี่นั่นแหละครับ อยากมาดูเลย ผมว่ามันหน้าตาน่ารักดีครับ
หันไปมองอีกด้าน โอ้วววว ควันเยอะกว่าเดิมอีก
พอดีช่วงที่ไปยังไม่มีข่าวเรื่องภูเขาไฟระเบิดเท่าไรนะครับ พอมาปีนี้ แม่เจ้า ข่าวเกี่ยวกับภูเขาไฟระเบิดเยอะมากกกกกก
ถ้าเป็นตอนนั้นเห็นควันแบบนี้ผมคงอยากจะรีบลงไปเร็วๆเลยละครับ
มุมกว้างกันบ้าง ด้านล่างนี่คือมิวเซียมครับ ผมไม่ได้เข้าไปชมนะครับต้องทำเวลาเพราะต่อจากที่นี่ต้องนั่งรถไปฮิโรชิม่าต่อครับ
อันนี้เป็นจุดที่บอกว่ามีภูเขาไฟชื่ออะไรบ้างครับ แหม่ หลายลูกเลยทีเดียว >_<
พออิ่มกับวิวเรียบร้อย ท้องก็เริ่มหิว ได้กลิ่นปิ้งย่างมาแต่ไกล ฮั่นแน่คุณลุงปิ้งอะไรครับ ขอลองชิมหน่อย
ได้มาแล้วคับ 500yen เนื้อม้าที่น่ารักของเรา เกิดมานี่ก็ครั้งแรกที่จะได้ชิม ไม่ว่ากันนะน้องม้าาาา
ระหว่างรอรถบัสครับ รู้สึกว่ารถบัสจะมีทุกๆ 2o นาทีนะครับ ผมไม่แน่ใจลองดูที่ป้ายรถได้ครับไม่ยากเท่าไรครับ
หรือไม่ก็ถามเอาเลยครับ แหะๆ
ภาพตัด ฉับ!
มาที่สถานีอีกครั้ง เจ้าวัวนี่เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของที่นี่ครับ บ่งบอกว่าต้องมาชิมเนื้อวัวที่นี่ให้ได้นะ
เตรียมตัวเดินทางไปฮิโรชิม่าครับ
ตรงนี้ครับที่บอกว่าเป็นจุดรอรถบัส และเป็นที่ขายตั๋วด้วยครับ
ระหว่างรอรถไฟก็เหลือบไปเห็นน้ำขวดนี้ในตู้ครับ แอร๊ยยยยย น้องหมีคุมะมงผู้โด่งดัง เลยตัดสินใจกดมาเลยหนึ่งขวด
แพ๊คเกจนี่เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เสียเงินได้ง่ายๆเลยครับสำหรับประเทศนี้
เอ้ามาแล้ว รถไฟที่เรารอคอยอีกขบวน ASO BOY ครับ ก่อนมาผมก็ดูตารางจาก Hyperdia ก่อนแล้วครับ ว่ารอบไหนจะได้นั่งเจ้านี่ก็วางแผนไว้เลย
การตกแต่งภายในของ ASO BOY ชอบมากๆครับ มันสวยจริงๆ
ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองนั่งนะครับ
ทุกอย่างมีดีเทล มีรายระเอียดหมด
พักด้วยวิวข้างนอกหน้าต่าง สวยงามแปลกตามั้ยครับ
สำหรับใครที่อยากจะนั่ง ASO BOY ต้องเช็คตารางรถไฟดีๆนะครับ
เหมือนกับว่า ASO BOY จะมีเฉพาะวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ หรือวันหยุดนขัตฤกษ์ครับ
ด้านหน้ารถไฟก็มีที่นั่งชมวิวเหมือนรถลิมิเต็ดคันอื่นๆครับ
มีที่นั่งชิวด้วยนะเธอ
พอมาถึงกลางทางรถก็จะจอดให้ลงไปถ่ายภาพกันได้ครับ คุณแม่บ้านลงไปกันทั้งขบวน น่ารักดีจริงๆฮะ
แป๊ปเดียวเราก็ต้องลาจากคิวชูเข้ามาสู่เมืองใหญ่ที่มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์โลกของเราในเรื่องสงครามอีกเมืองหนึ่ง
หรือคือ ฮิโรชิม่า นั่นเองครับ
ผมมาถึงที่ฮิโรชิม่าก็ค่ำแล้ว เลยเข้าไปเช็คอินแล้วฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อนออกมาเดินหาอะไรกินเป็นอาหารเย็นด้านนอกครับ
ขอปิดท้ายด้วย โมดังยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่นสไตล์ฮิโรชิม่าที่เอาเส้นราเมงมารองด้านล่างนะฮะ ร้านนี้เป็นร้านแบบบ้านๆ ที่คุณป้ามาผัดให้ทานกันเลยทีเดียวครับ ราคาก็น่ารักไม่แพงเลยจริงๆ
ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปทริปตอนต่อไปที่เมืองฮิโรชิม่าครับ ผมนอนที่ฮิโรชิม่า 2 คืน
โดยแบ่งเป็นเที่ยวในเมืองครึ่งวันและไปเที่ยวที่เกาะมิยาจิม่าอีกครึ่งวันครับ
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ ขอบคุณมากคร๊าบบบบบบบบ สวัสดี 🙂