โอ้วววว โอซาก้าาาา (ตอนที่ 06 OSAKA) 29days in Japan
โอ้วววว โอซาก้าาาา (ตอนที่ 06 OSAKA) 29days in Japan
วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2013
ผมจำได้ว่าความรู้สึกแรกที่นึกถึงเมืองนี้คือ “กูลิโกะ”
ผมใช้เวลาอยู่โอซาก้า 2 วันครึ่งครับ เที่ยวรอบๆ ตาม Pass 2 Day
กับอีกครึ่งวันไปโกเบ และ นารา แล้วเกียวโตครับ
ส่วนตัวคิดว่าโซนคันไซเป็นโซนที่จัดเต็มเรื่อง กิน ช็อปปิ้ง และ เที่ยวมากๆ ดูมีอะไรมากกว่าโตเกียวอีกนะครับ
ลองมาดูกันเลยดีกว่าว่า โอซาก้า แบบของผมจะเป็นยังไงครับ
แผนที่และเส้นทางการเดินทางครับ ผมเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2013 – 19 พฤศจิกายน 2013 ลงเครื่องที่สนามบินฟูกูโอกะ
และ กลับทางสนามบินนิวชิโตเสะ ซัปโปโรครับ
เมืองที่ผมไปมีทั้งหมด 21 เมืองครับ แบ่งเป็น 20 ตอนนะครับ
01 FUKUOKA
02 NAGASAKI
03 YUFUIN
04 KUMAMOTO (ASO)
05 HIROSHIMA + MIYAJIMA
06 OSAKA <– ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ครับ
07 KOBE
08 NARA
09 KYOTO
10 KANAZAWA
11 SHIRAKAWAGO
12 TAKAYAMA
13 KUROBE ALPINE ROUTE
14 KAWAGUCHI-KO
15 YOKOHAMA
16 TOKYO
17 NIKKO
18 HAKODATE
19 OTARU
20 SAPPORO
View Japan 29 Days Trip in a larger map
เริ่มเดินทางจากฮิโรชิม่ากันเลย บาย บาย ฮิโรชิม่า แล้วเราคงได้พบกันอีก
เดินทางเช้าๆก็เจอะกับ ซาลารี่แมน
ของเราไม่ใช่คันนี้ แต่หน้าตาเจ้านี้ดูดีชะมัดเลยขอถ่ายรูปซะหน่อย
ทีมเบสบอลของที่ฮิโรชิม่า เค้าว่าดังมากๆครับ
ตัดภาพมาโรงแรมเลยแล้วกัน โรงแรมนี้ชื่อ Chuo Hotel Osaka ครับ
ราคาไม่แพงผมนอนที่นี่ 3 คืนครับ เป็นโรงแรมแบบแชร์ห้องอาบน้ำ แต่เป็นห้องส่วนตัว แถมอยู่ใกล้สถานีอีก สบายเลยเรา
สภาพห้องครับ คืนแรกเจอเสียงกรนห้องข้างๆไป เล่นนอนไม่หลับเลยทีเดียวครับ TxT
เก็บของแล้วออกไปเที่ยวกันดีกว่าครับ
ไปที่นี่ก่อนเลยครับ The Osaka Museum of History อยู่แถวๆปราสาทโอซาก้าครับ
ผมใช้ 2 day pass สามารถเข้าได้ฟรีครับ ราคา 3,000 yen คุ้มมากๆ เพราะได้นั่งเครื่องเล่น เข้าสถานที่ต่างๆได้ฟรีหมดเลยครับ
ใครสนใจดูที่นี่ได้ครับ OSAKA PASS
ด้านในตึกก็จะเป็นเหมือนสถานที่จำลองต่างๆ ครับ ที่ผมอยากมาจริงๆ ไม่ใช่มิวเซียมครับ
แต่เป็นมุมนี้ต่างหากครับ มุมสูงวิวปราสาทโอซาก้า กับตีกด้านหลัง ผมเห็นแล้วมันช่าง Contrast จริงๆเลยครับ ชอบมาก
ลองเจาะลงไปด้านล่างเห็นคนทำกิจกรรมกันรอบๆปราสาทกันเต็มเลย
มุมในฝันฉันไปมาแล้ว ชอบมากๆครับ
เมื่อถ่ายรูปจนพอใจ (ถ่ายมาเยอะมากๆ มุมก็เดิมๆแหละครับ แต่ไม่รู้จะกดมาทำไมเป็น 100-200 ใบ)
ก็เดินลงไปดูมิวเซียมบ้างดีกว่า ที่นี่จะจัดแสดงหุ่นจำลองวิถีชาวบ้านเก่าแก่ครับ
ดูกันเพลินๆนะครับ รายระเอียดขอไม่เจาะลึกมากเพราะผมเองก็ใช้เวลากับที่นี่ไม่มากเท่าไรครับ
มีแสดงการจำลองสถานที่ขุดเจอของโบราณด้วยครับ ของจริงเค้าเก็บเข้าตู้ไปหมดแล้วครับ
รอเวลาใกล้เย็นก็รีบเดินเข้าปราสาทแบบจ้ำอ้าวกันเลยทีเดียวครับ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกตึกอะไรครับ อยู่ข้างในบริเวณปราสาท
คนญี่ปุ่นเพียบเลย มานั่งเล่น กันในสวนครับ
เย้ ถึงปราสาทแล้ว วันนั้นนับว่าโชคดีอากาศดีมากครับ เย็นนิดๆครับ
ได้เห็นเจ้าปลาตัวนี้ของจริงๆกับตาตัวเองแล้วครับ
ด้านในก็จะมี Hologram หรือเปล่าไม่แน่ใจ ของบอกเล่าเรื่องราวให้ฟัง ฟังไม่รู้เรื่องอีกตามเคยครับ
มาถึงก็เกือบจะปิดแล้วครับ ก็รีบๆเดิน รีบถ่าย แล้วก็ลงมาเก็บแสงทไวไลท์ด้านล่างนิดหน่อยครับ
ด้านในนี้มีชมรมเคนโด้ด้วยครับ แอบเดินเข้าไปดูเด็กๆ ซ้อมกัน ดูจริงจังมากๆ
คุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นก็จะมาให้กำลังใจลูกๆครับ
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี่มืดเร็วจริงๆครับ แอบน่ากลัวนิดๆนะเนี่ย
ออกจากปราสาทโอซาก้า ก็รีบบึ่งรถไฟใต้ดินไปชินไซบาชิกันเลยครับ เพื่อ…
นั่งเรือ!
ครับ เป็นเรือชมวิวริมแม่น้ำที่พาดผ่านย่านกูลิโกะนั่นเองครับ รวมอยู่ใน 2 day pass เรียบร้อย
โดยรวมผมว่า Pass นี้คุ้มมากนะครับ ได้ทำอะไรหลายอย่าง นั่งรถไฟไปมาก็ได้ เข้าไปดูนู่นนี่ได้หมดเลย แนะนำค๊าบบบ
ถ่ายรูปกับเจ้าถิ่นกันหน่อยฮะ ไปตอนนี้เค้าเปลี่ยนใหม่ไปเรียบร้อยแล้วครับ
สาระอาจจะไม่ค่อยมีนะครับ รีวิวนี้ เน้นให้ดูภาพไปเรื่อยๆดีกว่าครับ
อะไรที่นี่ จะใหญ่ไปหมดเลยครับ สมชื่อ โอซาก้า ครับ (โอ) มาจากคำว่า โอคี่ ที่แปลว่า ใหญ่ ครับ
เคยเห็นในทีวี อยากลองมานานแล้วครับ เจ้าปูย่างเนี่ย ก็หวาน อร่อยจริงๆครับ
ต่อกันด้วยเกี้ยวซ่า 100 yen กันเลย ถูกมากๆครับ อิ่มเลยทีเดียว
เอ้า ทาโกะยากิ กันต่อ มาลองของต้นฉบับ ยังไงๆก็ไม่เหมือนในบ้านเราหรอกครับ
ไม่รู้ร้านไหนเป็นร้านไหน ขอแลดูคนเยอะๆไว้ก่อนครับ แฮร่ๆ
จบวันด้วยทาโกะยากิ ก็อิ่มเดินเล่นต่ออีกนิดหน่อยก็กลับโรงแรมครับ หมดไปอีกหนึ่งวัน
วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2013
วันนี้เช้าเดินเล่นแถวๆย่านเก่าของโอซาก้าครับ ย่านชินเซไก ที่มีเจ้านี่เป็นสัญลักษณ์
ย่านชินเซไก หรือ ภาษาอังกฤษแปลว่า New World ครับ คงจะเป็นนิวจริงๆ ในสมัยก่อนนะครับ
เพราะเดี๋ยวนี้น่าจะเป็นเหมือนแหล่งท่องเที่ยววินเทจอะไรทำนองนี้มากกว่าครับ
มันจะได้อารมณ์บรรยากาศสมัยเก่าๆหน่อยครับ
เจ้าตัวนี้พบได้ทั่วไปในโอซาก้าเลยครับ เป็นเหมือนมาสค็อตประจำเมือง
เช้าๆอย่างนี้หาอะไรรองท้องสักหน่อย
เจ้านี่เรียก คุชิคัตสึ ครับ เป็นเหมือนของทอดกินกับน้ำจิ้ม อารมณ์เหมือนเข้าหน้าหมูทอดครับ
วิธีทานก็เอาผักกาดที่เค้าให้มาตักน้ำจิ้มมาราดกับ ไอ้ไม้ๆที่เราสั่งมาทานแหละครับ อร่อยดี กรอบนอกนุ่มใน ใครผ่านไปลองไปชิมกันดูครับ
ทานเสร็จก็ไปขึ้นหอคอยกันเลยครับ เจอเจ้าหุ่นในเรื่องคินิคุแมน ยืนต้อนรับกันด้านหน้าเลยครับ
เจอมาสค็อตในโมเดลต่างๆน่ารักดีฮะ เป็นเอลวิส ด้วย
บรรยากาศรอบๆหอคอย โอซาก้าในมุมสูงครับ
คิตตี้ในชุดทาโกะยากิ >_<
เสร็จแล้วเวลาเราจะเดินออก จะมีเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูปให้ครับ เป็นโพราลอยด์ ถ่ายให้ฟรีครับ แล้วติดมาในคู่มือที่เราได้มาตอนแรกครับ
คินิคุแมนมาต้อนรับอีกแล้ว รู้สึกว่าตอนไปจะมีนิทรรศการ เกี่ยวกับคินิคุแมนครบรอบ 100 ปีครับ เลยมีหุ่นโมเดลเต็มเมืองไปหมด
กูลิโกะ ก็พบเจอในย่านนี้ครับ
อ้อ ของฝากจำพวกกูลิโกะที่นี่ก็มีขายนะครับ มีทุกรส ทุกแบบ เลยครับ แต่ถ้าไม่รีบไปดูแถวๆ ชินไซบาชิก็มีร้านเหมือนกันครับ
มีที่ให้นั่งทานกันบนนี้ได้เลยเหมือนกันครับ
เสร็จแล้วผมก็รีบไปที่ย่านไคยุคังต่อครับ แต่ไม่ได้เข้าไปในอควาเรี่ยมนะครับ ระหว่างทางเจอคุณแม่กะน้องยิ้มให้ด้วยไปกินชาเขียวซอฟท์ครีม ตะหาก ครับ !!!
ไม่ใช่! ไปขึ้นเรือซานต้ามาเรียครับ แหม่ ผมนี่เหนียวไก่เลย (มุข ณ วันที่นี้นะครับ เดี๋ยวคนอ่านจะไม่เก็ต 555)เรือก็ขึ้นฟรีอีกแล้ว ตาม Pass ที่ได้มา ก็ใช้ให้คุ้มไปเถอะครับ
ถ้าไม่ชอบชมวิวด้านนอก ด้านในก็มีที่นั่ง สบายๆนะครับ
เจ้าเรือซานต้ามาเรีย ก็จะแล่นไปเรื่อยๆครับ ไปแล้วก็กลับมาจอดที่จุดเดิม
สะพานสีแดงแลนด์มาร์ค ของที่นี่ พอมองจากมุมบนเรือแล้วก็สวยไปอีกแบบครับ
พอเรือมาจอดครบรอบก็ไปขึ้นดูมุมสูงของชิงช้าสวรรค์กันต่อครับ (จะคุ้มไปไหน)
ระหว่างเดินไปก็ไปสะดุดกับคุณลุงฝรั่งคนนี้ มาแสดงโชว์ตรงลานกว้างๆครับ แกฮามาก คอยชวนคนดูมาเล่นกับกลของแก
น่ารักดีนะครับ เวลาคนที่ไปที่ไหนพอเจอสภาพแวดล้อมแบบนั้นๆเข้า มันก็จะหล่อหลอมเข้ากับตัวเราเองได้ไม่ยากครับ
มองไกลๆ เอ้าสูงไม่ใช่เล่นๆเลยนะเนี่ย
พอเค้าเห็นผมมาคนเดียวเลยให้เจ้านี่มานั่งเป็นเพื่อนครับ แหม่ ช่วยได้เยอะเลย!
ไคยุคังแบบมุมสูง
นั่งดูพระอาทิตย์ตกบนนี้คนเดียวมันเหงาจริงๆนั่นแหละครับ
เสร็จแล้วก็ไป Umeda Sky Building กันต่อ
ไปเพื่อไปดูมุมนี้ครับ เสียดายไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมา
กุญแจคล้องคู่รักนี่มีทุกที่จริงๆครับ คนมาคนเดียวแบบผมก็ได้แต่มอง
พอชมวิวด้านบนหอมปากหอมคอก็เริ่มหิว! ว่าแล้วก็กลับไปกินโอโคโนมิยากิ แบบโอซาก้ากันบ้างดีกว่าครับ
กลับมาที่เดิมย่านชินไซบาชิ เพื่อมาร้านนี้ครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร
แต่รู้ว่าอยู่บนตึก เดี๋ยวจะหาข้อมูลมาแก้ไขเพิ่มให้ครับ
อยากบอกว่ามันอร่อยมากกกกก ปลาหมึกบนหน้ามันดิ้นไปดิ้นมาด้วยครับ หลับฝันดีสำหรับคืนนี้เลยทีเดียว
วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2013
เตรียมตัวออกจากโอซาก้าไปต่อที่ โกเบ นารา เกียวโต แล้วครับ วันนี้ย้ายโรงแรมแล้ว
ตอนเช้าก็ไปที่วัด Sumiyoshi Taisha กันครับ วัดนี้มีชื่อเสียงตรงบันไดโค้งหน้าวัดครับ แต่เราต้องออกมานอกตัวเมืองโอซาก้าหน่อยครับ
เป้าหมายคือมาถ่ายรูปที่นี่แหละครับ ถ้ามองสะท้อนน้ำจะเป็นรูปวงกลมพอดีครับ
ตัวบันไดเป็นบันไดเก่าแก่ครับ โค้งมากๆ ทำให้รู้ว่าสติปัญญาของสถาปนิกรุ่นเก่าๆ นี่เก่งมากๆเลยนะครับ
เด็กน้อยมาเที่ยววัดกับครอบครัว หน้าตาหาเรื่องจัง ฮ่าๆ
มาดูใกล้ๆกันครับ ถ้าเราเดินขึ้นไปถึงกลางสะพานแล้วลงไปอีกนิดก็มองไม่เห็นกันแล้วครับ ผมทึ่งมากๆเลย
มุมสะท้อนน้ำมหาชนครับ ถ้าแสงดีๆ น่าจะสวยกว่านี้อีกครับ
ขอปิดที่รูปนี้แล้วกันนะครับ สำหรับเมืองโอซาก้า ที่อะไรๆก็ใหญ่ไปทุกอย่าง เห็นแล้วร้อง โอ้วววว เลยทีเดียวครับ
เดี๋ยววันนี้จะได้กลับไปญี่ปุ่นอีกครั้งในรอบ 1 ปี ทริปนี้จะเน้นกินเที่ยวให้เต็มที่เลยครับ
แล้วจะมี Realtime Travel ให้ชมในบล็อคด้วยนะครับ ฝากติดตามกันด้วยครับผม จะพยายามอัพเดตทุกๆวันครับ